ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมของแผ่นอะคริลิคแผ่นใหญ่ vs. แก้ว

ในปัจจุบันที่ภาวะโลกร้อนรุนแรงและน่ากลัวยิ่งขึ้น ทำให้หลายๆ ธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจอุตสาหกรรมและคนปกติทั่วไปเริ่มหันมาสนใจการใช้สินค้าหรือการบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมไปถึงการใช้ของซ้ำและการใช้สินค้าที่มาจากการแปรรูปจากของเก่า เช่นเดียวกับวงการวัสดุเชิงอุตสาหกรรมอย่างตัวแทนจำหน่ายแผ่นอะคริลิคแผ่นใหญ่ที่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น ทำให้ผู้คนเริ่มหันมาสนใจว่าแผ่นอะคริลิคแผ่นใหญ่หากใช้ทดแทนวัสดุเช่น แก้ว จะมีส่วนช่วยในเรื่องลดโลกร้อนหรือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่ และนี่คือประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมของแผ่นอะคริลิคแผ่นใหญ่หรืออะคริลิคไซส์ปกติทั่วไปเมื่อเทียบกับวัสดุจากแก้ว

แผ่นอะคริลิคหรือที่เรียกว่าโพลีเมทิลเมทาคริเลต (PMMA) ทำมาจากปิโตรเลียม กระบวนการผลิตแผ่นอะคริลิคแผ่นใหญ่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าอย่างมากเมื่อเทียบกับการผลิตกระจก นอกจากนี้ การผลิตแผ่นอะคริลิคแผ่นใหญ่ยังใช้พลังงานและทรัพยากรน้อยกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุประเภทกระจก ทำให้เป็นทางเลือกที่ยั่งยืนกว่า

ข้อดีด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของแผ่นอะคริลิคแผ่นใหญ่คือความทนทาน แผ่นอะคริลิคมีความทนทานสูงต่อแรงกระแทกและป้องกันการแตกหัก ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการจราจรคับคั่งหรือการใช้งานกลางแจ้ง แผ่นอะคริลิคแผ่นใหญ่มีโอกาสน้อยที่จะต้องเปลี่ยนใหม่เนื่องจากความเสียหายเพราะมันค่อนข้างถึกทนและใช้งานได้นานในระยะยาว ความทนทานนี้หมายถึงขยะที่น้อยลง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อย จึงเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อมพอสมควร

ข้อดีอีกประการของแผ่นอะคริลิคแผ่นใหญ่คือประสิทธิภาพด้านพลังงาน แผ่นอะคริลิคมีความต้านทานความร้อนสูงกว่ากระจก คือสามารถเป็นฉนวนและทำให้พื้นที่อบอุ่นได้ดีกว่า ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ต้นทุนพลังงานลดลงและลดการปล่อยคาร์บอนเมื่อเวลาผ่านไป

แผ่นอะคริลิคยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในแง่ของการรีไซเคิลอีกด้วย เพราะมันสามารถรีไซเคิลได้ทั้งหมดและสามารถละลายและแปรรูปเป็นแผ่นใหม่หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้ในทางกลับกัน แก้วมีอัตราการรีไซเคิลที่ต่ำกว่า เนื่องจากต้องใช้พลังงานสูงในการรีไซเคิล ซึ่งหมายความว่าแก้วจำนวนมากจะจบลงด้วยการฝังกลบให้ย่อยสลายไปเองซึ่งต้องใช้เวลาหลายพันปีในการย่อยสลาย และมักมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนซึ่งมีผลเสียต่อสภาพแวดล้อมอีกด้วย

โดยสรุปคือแผ่นอะคริลิคแผ่นใหญ่เป็นตัวเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าเมื่อเทียบกับกระจกแบบดั้งเดิม เพราะมีข้อดีเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าแก้วในขั้นตอนการผลิต อีกทั้งยังทนทานกว่า ประหยัดพลังงาน และสามารถรีไซเคิลและนำมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด หากเลือกใช้อะคริลิคแผ่นใหญ่มันไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังช่วยลดต้นทุนและไม่มีเรื่องให้เสียเงินในระยะยาวอย่างแน่นอน

การคัดเลือกบุคลากรทางด้านไอที ควรพิจารณาจากอะไรบ้าง

บุคลากรทางด้านไอที ถือว่าเป็นบุคลากรที่สสำคัญกับทุกองค์กรกับการทำงานในยุคนี้ เพราะแทบจะทุกองค์กรทั้งใหญ่และเล็ก ล้วนต้องนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาประยุกต์ใช้กับการทำงานทั้งสิ้น และประสิทธิภาพของการใช้เทคโนโลยีจะได้ผลมากที่สุด ก็ต้องขึ้นอยู่กับบุคลากรที่เลือกใช้เช่นกัน หากพนักงานมีบุคลากรมีความเชี่ยวชาญในงานด้านนี้ การใช้เทคโนโลยีก็จะเกิดความคุ้มค่า และได้งานที่มีคุณภาพมากขึ้น

เพราะฉะนั้นในการเลือกบุคลากรด้านไอที จึงต้องมีเกณฑ์เข้ามาพิจารณาก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าบุคลากรเหล่านั้น มีศศักยภาพเพียงพอกับการทำงาน มาดูกันว่าเกณฑ์ในการคัดเลือกมีอะไรบ้างที่สำคัญ

เกณฑ์ในการคัดเลือกบุคลากรด้านไอที

1.มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี

บุคลากรด้านไอที ควรจะมีความรู้เกี่ยวกับงานด้านไอทีเป็นอย่างดี เช่น เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ใช้ในองค์กร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานที่มากกว่าเดิม นอกจากนี้ยังต้องมีทักษะในการบริหารงานด้านไอทีด้วย 

2.ทักษะด้านการใช้เทคโนโลยี

ประสบการณ์เกี่ยวกับด้านการใช้เทคโนโลยีถือว่าเป็นสิ่งสำคัญกับบุคลากรไอที เพราะผู้ที่เคยใช้งานมาก่อนเท่านั้น ถึงจะรู้ว่าหลักการทำงานของมันเป็นอย่างไร อย่างเช่นทักษะเกี่ยวกับการใช้งานแอปพลิเคชั่น เพื่อหาข้อบกพร่อง และนำมาปรับปรุงพัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่ให้มีประสิทธิภาพที่สูงกว่าเดิม

3.ความเชี่ยวชาญด้านเว็บไซต์

องค์กรทุกองค์กรล้วนต้องมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เพื่อเป็นหน้าบ้านสำหรับต้อนรับลูกค้า และเป็นแหล่งเก็บข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าและบริการของทางองค์กร เพราะฉะนั้นบุคลากรทางด้านไอที จะต้องมีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับเว็บไซต์เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นพื้นฐานเลยก็ว่าได้ เพื่อเป็นการป้องกันการโจรกรรม หรือการไม่หวังดีจากโลกไซเบอร์ ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

4.เข้าใจการททำธุรกิจ

นอกจากจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับด้านไอทีแล้ว บุคลากรที่เกี่ยวกับด้านไอที ก็ควรจะมีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจด้วยเช่นกัน เพื่อที่จะได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาบูรณาการกับการทำธุรกิจ เช่น การเก็บข้อมูลของลูกค้า เพื่อนำมาวิเคราะห์ในการเปลี่ยนแปลงสินค้า พัฒนาสินค้าใหม่ๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจหลักของการทำงานของทุกองค์กรเลยก็ว่าได้

5.เชี่ยวชาญในการรักษาความปลอดภัย

ความปลอดภัยของข้อมูลถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ยิ่งมีการทำงานแบบออนไลน์ด้วย ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นไปอีก ฉะนั้นข้อมูลต่างๆ ขององค์กรจะปลอดภัยได้ ก็ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญจากบุคลากรไอที ที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันก่อน ยิ่งเทคโนโลยีมีความทันสมัยมากเท่าไหร่ การโจรกรรมผ่านทางไซเบอร์ ก็เพิ่มความซับซ้อนมากขึ้นเท่านั้น

6.รักการเรียนรู้

เทคโนโลยีไม่มีวันที่จะหยุดนิ่ง มีแต่จะพัฒนาให้ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นคนที่ทำหน้าที่ด้านไอที ควรเป็นผู้ที่รักในการเรียนรู้เกี่ยวกับไอที เพื่อนำความรู้เหล่านั้นมาประยุกต์กับการทำงานในองค์กร และบุคลากรแผนกอื่นๆ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี

ฉะนั้นในการเลือกบุคลากรทางด้านไอที ควรจะเลือกให้เหมาะสมที่สุดกับการทำงาน และมีการคัดเลือกอย่างละเอียด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่า จึงต้องมีเกณฑ์ในการคัดเลือกเข้ามาใช้ จะช่วยให้ตัดสินใจได้รอบคอบยิ่งขึ้น และที่สำคัญก็คือควรจะเลือกผู้ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับงานด้านนี้เป็นหลักจะดีที่สุด เพราะมั่นใจในศักยภาพได้มากกว่า

3 แอพพลิเคชั่นที่ต้องมีในยุคสังคมไร้เงินสด!!!

ในยุคสมัยแห่งเทคโนโลยี และ อินเตอร์เน็ตอย่างยุคปัจจุบัน ทำให้การดำเนินชิวตของเรานั้นต้องเปลี่ยนไปในหลาย ๆ มิติ อย่างเช่น เรื่องการจับจ่ายใช้สอย ที่นอกจากจะมีการซื้อของจ่ายเงินทางออนไลน์แล้ว ในปัจจุบันยังยกระดับความสะดวกสบายโดยการผลักดัในสังคมเป้นสังคมไร้เงินสด คือสามารถซื้อขาย และ โอนรับเงินทางออนไลน์ได้เลย โดยไม่จำเป้นต้องใช้เงินสดซื้อ ซึ่งจะช่วยให้ทั้งผู้ซื้อ และ ผู้ขายสะดวกเรื่องการเก็บ รับเงิน และ ความปลอดภัยในการถูกโจรกรรม รวมทั้งการรับเชื้อโรคจากเงินก็น้อยลงด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงขอมาแนะนำ 3 แอพพลิเคชั่น ที่จะทำให้คุรสามารถใช้ชีวิตในสังคมไร้เงินสดได้ง่ายยิ่งขึ้น 

  1. True Money Wallet 

กระเป๋าเงินออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณใช้จ่ายได้ในร้านค้าที่ร่วมรายการชั้นนำ อย่าง 7/11, Makro และ อื่นๆ  อีกเพียบ พร้อมสิทธิพิเศษที่จะได้รับอีกมากมาย ทั้งแต้มพิเศษเมื่อใช้จ่ายใน 7/11 และเงินคืนเมื่อคุณใช้จ่ายตามเงื่อนไขของทางแอพฯ เรียกได้ว่าสะดวก คุ้มค่าสมกับสโลแกนที่ว่า “กระเป๋าตังค์สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่จะเปลี่ยนชีวิต การใช้จ่ายให้ง่าย และมีสิทธิพิเศษไม่รู้จบ” จริง ๆ ค่ะ 

  1. Airpay

กระเป๋าเงินออนไลน์ที่จะยกระดับชีวิตของคุณให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น เพราะมีบริการครบวงจรในที่เดียว ไม่ว่าจะจ่ายชำระบิลต่าง ๆ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ตบ้าน ค่างวดต่าง ๆ และ อื่น ๆ อีกมากมาย รวมทั้งยังสามารถใช้ในการจองตั๋วภาพยนต์ ซื้อคูปองดีลพิเศษต่าง ๆ เติมเกม สั่งอาหาร และ อื่น ๆ อีกเพียบ ผ่านการตัดเงินในบัตรเครดิต/เดบิต หรือ บัญชีธนาคาร ที่จะทำให้คุรสะดวกไม่ต้องเปิดไปเปิดมาหลายแอพฯ อีกด้วยค่ะ 

  1. Rabbit Line Pay 

บริการกระเป๋าเงินออนไลน์จาก LINE ที่จะ เชื่อมต่อกับ LINE ของเราทำให้สะดวกในการใช้ โดยสามารถเติมเงินได้ง่ายผ่านหลากหลายช่องทาง และ สามารถใช้จ่ายแทนเงินสดได้ตามร้านค้า และ บริการที่ร่วมบริการกับทาง Rabbit LINE Pay รวมทั้งสามารถจ่ายบิลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ เพียงสแกนบาร์โค้ด ที่สำคัญยังสามารถฝาก ถอน โอนได้อย่างอิสระอีกด้วย พร้อมมีแต้มสะสมไว้ใช้แลกสิทธิพิเศษต่าง ๆ อีกมากมาย เรียบกได้ว่าครบ จบ กระเป๋าเดียวเลยจริง ๆ ค่ะ 

เป็นอย่างไรบ้างคะ กับ 3 แอพฯ กระเป๋าเงินที่จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตอยู่ในสังคมไร้เงินสดได้อย่างง่าย สะดวก ปลอดภัย ไว และ มีความสุข หากสนใจก็สามารถไปโหลดมาใช้งานกันได้ ไม่มีค่าธรรมเนียม และ รับรองเรื่องความปลอดภัยค่ะ

ประกันมะเร็ง ออนไลน์ ซื้อที่ไหนดี

สำหรับแหล่งเลือกซื้อประกันในปัจจุบันนี้แน่นอนว่ามีหลากหลายแห่งให้คุณได้ลองเข้ามาใช้บริการและเลือกซื้อความคุ้มครองประกันที่คุณต้องการโดยเฉพาะประกันสุขภาพอย่างประกันมะเร็งที่วันนี้คุณสามารถเข้ามาใช้บริการประกันมะเร็ง  ออนไลน์กับเว็บรู้ใจของเราได้ เพื่อที่จะช่วยทำให้ผู้เอาประกันได้รับความสะดวกในการเลือกซื้อความคุ้มครองให้กับตัวเองได้มากขึ้นหรือหากคุณต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบประกันมะเร็ง ออนไลน์หน้าเว็บรู้ใจเราก็มีหลากหลายข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบประกันมะเร็งแต่ละประเภทให้คุณได้ลองเข้ามาทำความรู้จักก่อนที่จะเลือกซื้อความคุ้มครองประกันมะเร็ง ออนไลน์ที่คุณต้องการ แต่ถ้าคุณเลือกรูปแบบประกันมะเร็งที่คุณต้องการได้แล้วลองเข้ามาเลือกซื้อประกันมะเร็งที่เว็บรู้ใจของเราได้เลย

เลือกซื้อประกันมะเร็ง ออนไลน์ที่เว็บรู้ใจ

สำหรับเว็บรู้ใจของเราเป็นเว็บที่เปิดให้บริการเกี่ยวกับประกันหลากหลายรูปแบบหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ประกันรถมอเตอร์ไซค์ประกันชีวิตหรือรูปแบบประกันมะเร็ง ออนไลน์ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประกันที่ได้รับความนิยมและเป็นที่สนใจสำหรับคนที่เป็นกังวลในเรื่องของสุขภาพวันนี้คุณสามารถเข้ามาเลือกซื้อประกันมะเร็ง ออนไลน์ที่เว็บรู้ใจได้ง่ายๆคุณไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปที่บริษัทประกันเองเพียงแค่เข้ามาที่หน้าเว็บรู้ใจเราเราก็มีหลากหลายข้อมูลเกี่ยวกับประกันมะเร็งให้คุณได้ลองเข้ามาทำความรู้จักว่าแต่ละประเภทของประกันมะเร็งนั้นให้ความคุ้มครองแบบไหนมีข้อยกเว้นความคุ้มครองอย่างไรมีราคาเบี้ยประกันเท่าไหร่เพื่อที่จะทำให้คุณเลือกซื้อรูปแบบความคุ้มครองประกันมะเร็งได้ตอบโจทย์ความต้องการของตัวเองมากที่สุด

เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถเลือกซื้อรูปแบบประกันมะเร็ง ออนไลน์กับวิจัยได้แล้ว  เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจต้องการเลือกซื้อประกันมะเร็ง ออนไลน์แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปเลือกซื้อประกันมะเร็งเหล่านี้กับที่ไหนดีลองเข้ามาสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมที่หน้าเว็บรู้ใจเราเราพร้อมให้บริการและให้ความช่วยเหลือในทุกขั้นตอนการเลือกซื้อประกันมะเร็งที่คุณต้องการรวมถึงแล้วจะมีบริการเปรียบเทียบราคาเบี้ยประกันที่จะช่วยทำให้คุณประหยัดเงินในการเลือกซื้อความคุ้มครองที่คุณต้องการได้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมนอกจากนี้แล้วก็ยังมีสิทธิพิเศษดีๆมากมายที่จะทำให้คุณได้รับส่วนลดของแถมและบริการดีๆเมื่อเข้ามาเลือกซื้อประกันมะเร็ง ออนไลน์กับเว็บรู้ใจของเรา หรือถ้าคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมอยากได้คำแนะนำสำหรับการเลือกซื้อประกันให้เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเองมากที่สุดเว็บรู้ใจเราก็มีทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ทางด้านการขายประกันมาคอยให้คำแนะนำและให้ความช่วยเหลือในขั้นตอนการเลือกซื้อประกันมะเร็งที่คุณต้องการ

ใครเหมาะกับอะไร โน๊ตบุ๊คกับแท็บเล็ท?

โน๊ตบุ๊ค

            ในยุคปัจจุบันเชื่อว่าแทบทุกคนนั้นต้องมีแท็บเล็ต หรือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่เป้นหนุ่มสาวออฟฟิศ หรือ ทำธุรกิจส่วนตัว เพราะโน๊ตบุ๊ค และ แท็บเล็ตนั้นสามารถช่วยให้การทำงานของคุณนั้นดีขึ้น ง่ายขึ้น และ ลื่นไหลมากขึ้น ประกอบกับเทคโนลยี และ นวัตกรรมต่าง ๆ ที่เข้ามาทำให้อุปกรณ์เหล่านี้ต่าง ออกรุ่นใหม่ ๆ มาให้เลือกซื้อ เลือกใช้อยู่ตลอด แต่จริง ๆ แล้ว ทั้งโน๊ตบุ๊ค และ แท็บเล็ตก็ต่างมีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันไป และ เหมาะสมกับการทำงานที่แตกต่างกัน แต่ใครล่ะที่จะเหมาะกับแท็บเล็ต ใครล่ะที่จะเหมาะกับโน๊ตบุ๊ค วันนี้เรามีคำตอบ ไปดูกัน

แท็บเล็ตเหมาะกับใคร?

                แท็บเล็ตมีความโดดเด่นเรื่องขนาด ทำให้แท็บเล็ตนั้นเหมาะกับผู้ที่ต้องการความคล่องตัว เดินทางบ่อย มักต้องทำงานนอกสถานที่ เพราะแท็บเล็ตนั้นสามารถพกพาได้ง่าย และ สามารถใช้งานเอกสารพื้นฐานได้ ทำให้คุณสามารถทำงานจากข้างนอก ตอบรับอีเมล และ ประชุมได้ ตลอดเวลา แต่ข้อจำกัดคือ ไม่สามารถทดแทนการแก้ไขเอกสาร พิมพ์เอกสารจากโน๊ตบุ๊คได้ เพราะฉะนั้นใครที่เน้นหนักไปทางงานเอกสารอาจจะต้องพิจารณาดูอีกทีนะคะ และ อีกกลุ่มคนที่แท็บเล็ตนั้นสร้างมาเพื่อคุณก็คือ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เพราะแท็บเล็ตนั้นสามารถใช้งานแอพฯได้เหมือนกับโทรศัพท์ แถมยังสะดวกต่อพ่อค้าแม่ค้าในการแต่งรูป และ อัพโหลดขึ้นร้านได้ในเครื่องเดียว เหมาะกับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องแต่งรูป ตอบลูกค้า และ อัพเดทร้านอยู่ตลอดเวลา

โน๊ตบุ๊คเหมาะกับใคร?

            โน๊ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์พกพาเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานเอกสารหนัก ๆ ต้องแก้ไขเอกสารบ่อย เพราะโน๊ตบุ๊คนั้นสามารถให้ความเสถียรใฝนการใช้งาน รวมทั้งความสะดวกในการพิมพ์งานมากกว่าแท็บเล็ตนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับสายกราฟิก ที่ต้องใช้ความโหดของระบบสั่งการ การ์ดจอ และ ซีพียู นั่นเอง เหมาะสำหรับหนุ่นสาวออฟฟิศที่มีงานเอกสารเยอะ รวมทั้งต้องการใช้งานอื่น ๆ ทั้งความบันเทิง ทั้งงาน จบในที่เดียว แต่ก็ไม่เหมาะสำหรับคนที่เดินทางบ่อย เพราะโน๊ตบุ๊คนั้นค่อยข้างมีน้ำหนักมาก อาจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้หากต้องแบบเป็นประจำ

            ใครเหมาะกับอะไรก็ลองไปเลือกดู และ ตัดสินใจดูนะคะ ส่วนใครที่กำลังหาซื้อโน๊ตบุ๊คและ แท็บเล็ตแต่ไม่รู้จะดูที่ไหน บ้านก็ไม่อยากออก  ก็สามารถเลือกซื้อ เลือกดูได้ใน Lazada ผ่อนได้ มีประกัน แถมร้านค้าได้รับการยืนยัน ไม่มีโกงแน่นอน เพราะ Lazada จะทำใหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างร้านค้ากับเราให้นั่นเองค่ะ

ร้อนเหรอ? มาดับกระหาย ได้สุขภาพกับน้ำผลไม้สกัดเย็นจาก foodpanda delivery

foodpanda delivery

กระแสคนรักสุขภาพกำลังมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตได้อีกไกลในอนาคต เพราะสุขภาพจะดีแค่ไหน อยู่ที่ว่าเราทานอะไรเข้าไป โรคภัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเราส่วนใหญ่ก็เกิดจากอาหารการกินที่ไม่มีคุณภาพทั้งนั้น น้ำผลไม้สกัดเย็นเป็นอีกหนึ่งเมนูเครื่องดื่มยอดฮิตที่คนไทยสั่งกันมากบน foodpand delivery แต่น้ำผลไม้แบบนี้มีความพิเศษอย่างไรหนอ เรามีเกร็ดความรู้ดี ๆ มาฝากก่อนที่จะให้คุณ ๆ ได้ลองสั่งมาทานกัน

น้ำผลไม้สกัดเย็นคืออะไรนะ

การสกัดเย็นเป็นเทรนด์ในการทำน้ำผลไม้ที่เกิดขึ้นมาได้ไม่นาน จุดประสงค์ก็เพื่อให้เครื่องดื่มคงคุณค่าของวัตถุดิบไว้ให้มากที่สุด การสกัดเย็นเป็นรูปแบบการปั่นที่ได้รับการพัฒนาจากรูปแบบเครื่องปั่นเดิม ๆ โดยใช้แรงอัดไฮดรอลิคซึ่งมีความเร็วรอบต่ำ และไม่ใช้ใบมีดความเร็วสูง วิธีนี้จะทำให้เนื้อผลไม้ไม่เกิดความร้อนและลดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ที่ส่งผลให้คุณค่าทางอาหารจำพวกวิตามินหรือเอนไซม์ต่าง ๆ ต้องเสียคุณค่าไป ทำให้ผู้ทานได้สารอาหารแบบเต็ม ๆ เหมือนทานผลไม้สด แต่ก็ทานง่ายเหมือนทานน้ำผลไม้ปกติ

ประโยชน์ของน้ำผลไม้สกัดเย็นที่คุณควรรู้

  • เป็นน้ำตาลที่มีคุณภาพ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานน้ำหวานซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพอย่างน้ำอัดลม หลายคนที่เลิกทานหวานไม่ได้ เมื่อเปลี่ยนมาเป็นน้ำผลไม้พบว่าดีต่อร่างกายอย่างยิ่ง เป็นหนึ่งเหตุผลหลักที่เมนูนี้ได้รับการชื่นชมอย่างล้นหลามบนบริการ foodpanda delivery
  • น้ำผลไม้ไม่มีกากใย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ระบบการย่อยมีปัญหา เช่น ผู้ป่วยที่เพิ่งฟื้นไข้ ดื่มแล้วสบายท้อง ไม่รู้สึกอึดอัด
  • ให้พลังงานได้ทันที เพราะน้ำผลไม้สกัดเย็นให้น้ำตาลที่มีคุณภาพ ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันทีจึงรู้สึกสดชื่น ตื่นตัว ดื่มได้ทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกาย
  • มีปริมาณสารอาหารมากกว่าน้ำผลไม้แบบปกติเพราะผ่านกระบวนการที่ถนอมวัตถุดิบมากกว่า อีกทั้งยังมีรสชาติอร่อย ทานง่าย มีติดตู้เย็นไว้เวลากระหาย รับรองว่าไม่มีผิดหวัง

แนะนำร้านยอดฮิตบน foodpanda: Slim Pig Fresh Juice น้ำผลไม้สกัดเย็น100%

เมื่อรับรู้ถึงประโยชน์ของน้ำผลไม้สกัดเย็นไปแล้ว ทีนี้ก็มาถึงเมนูยอดฮิตที่น่าสั่งกันบ้าง น้ำผลไม้สกัดเย็นไม่ได้มีแค่ขวดเดียวต่อหนึ่งชนิดผลไม้ แต่ยังสามารถนำมารวมกันได้เป็นเครื่องดื่มผลไม้รวมสกัดเย็นที่ให้สรรพคุณแตกต่างกันออกไป ที่ร้าน Slim Pig Fresh Juice มีหลายต่อหลายสูตรรอให้คุณมาลิ้มลอง เช่น

  • สูตร 1 สัปปะรด แอปเปิ้ล และเสาวรส ช่วยบำรุงสายตา ควบคุมโรคหอบหืด
  • สูตร 6 แอปเปิ้ลเขียว ขิง มะนาว ช่วยบำรุงผิวพรรณและลดรอยสิว
  • สูตร 14 แตงกวา ขึ้นฉ่าย ผักเคล ช่วยระบบทางเดินอาหาร ลดการอักเสบ
  • นี่แค่น้ำจิ้มเท่านั้น เพราะทางร้านมีให้เลือกถึง 16 สูตร ดื่มกันได้ทั้งปีไม่มีเบื่อ

อยากลองกันแล้วใช่ไหมล่ะสำหรับเครื่องดื่มเพื่อคนรักสุขภาพชั้นเยี่ยมแบบนี้ รักใครอยากให้คนไหนมีสุขภาพดี ให้เขาทานน้ำผลไม้สิ รับรองว่าได้ผล แล้วอย่าลืมว่าของอร่อย ๆ แถมความเฮลตี้ยังมีอีกมากบน foodpanda delivery ลองเข้าไปเซิร์ฟ ๆ กันได้ แล้วคุณจะติดใจแน่นอน

มารู้จักกับรางวายเวย์ และข้อกำหนดการใช้งาน

รางเดินสายไฟที่ใช้กันในปัจจุบัน จะแบ่งออกเป็นสองแบบใหญ่ๆ ก็คือ รางวายเวย์ กับรางเคเบิลเทรย์ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้จะแตกต่างกันตรงที่ลักษณะของการนำมาใช้กับพื้นที่ที่ต่างกัน ดังนั้นในการเลือกใช้ขึงต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยรางแต่ละชนิดจะมีข้อกำหนดของการใช้งานที่แตกต่างกัน ว่าใช้ภายในหรือภายนอก ใช้กับสายไฟชนิดใดได้บ้าง

ดังนั้นก่อนอื่นเราจะมาทำความรู้จักเกี่ยวกับ รางวายเวย์ ว่ามีวิธีการผลิตอย่างไร และเหมาะกับการใช้งานกับงานลักษณะ เพื่อจะได้เลือกใช้งานได้อย่างถูกต้อง

รางวายเวย์ ทำมาจากอะไร

ส่วนใหญ่แล้วรางวายเวย์ จะทำมาจากวัสดุที่เป็นแสตนเลส หรือเป็นแผ่นเหล็กแล้วนำมาเคลือสี เพื่อให้ได้คุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้งาน นอกจากจะนี้ยังมีวัสดุอีกหลายชนิดที่สามารถนำมาทำได้ เช่นอลูมิเนียม โดยวัสดุแต่ละชนิดก็จะส่งผลทำให้ราคาของรางแตกต่างกันไปด้วย  สำหรับลักษณะของตัวราง จะประกอบไปด้วยส่วนที่เป็นตัวราง และมีฝาที่ใช้ปิดด้านบน

ในการใช้งานรางชนิดจะต้องใช้สกรูในการขันยึดด้วย จึงจะทำให้รางมีความแข็งแรงมากขึ้น ในการติดตั้งรางวายเวย์ นิยมติดตั้งในพื้นที่เปิดโล่งที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย อย่างเช่นในการซ่อมบำรุงหรือตรวจเช็ครางในกรณีที่มีปัญหา เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงจะต้องเข้าถึงได้ทันที เพราะว่าเป็นรางที่มีฝาปิด หากติดตั้งในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก การบุรงรักษาในภายหลังก็จะทำได้ลำบาก

รางวายเวย์

ข้อดีของรางวายเวย์

เนื่องจาก รางวายเวย์ เป็นรางที่มีฝาปิดและใช้สกรูในการยึด ดังนั้นจะช่วยป้องกันสายไฟจากสิ่งสกปรกภายนอกได้เป็นอย่างดี หรือจะเป็นพวกสัตว์ต่างๆ ที่มักจะเข้าไปทำลายสายไปก็จะเข้าไปไม่ได้ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของสายไฟได้ยาวนานยิ่งขึ้น และความแข็งแรงจากการใช้สกรูยึด ก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวรางเช่นกัน

ข้อกำหนดของการใช้รางวายเวย์

1.ใช้ในพื้นที่เปิดโล่ง อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า เป็นรางปิดทึบ ดังนั้นจึงต้องเข้าดูแลได้สะดวก จึงจำเป็นต้องติดตั้งในที่โล่งเท่านั้น

2.จำนวนสายไฟเหมาะสม จำนวนสายไฟที่เหมาะสมกับการติดตั้งในรางวายเวย์ ไม่ควรจะเกิน 30 เส้น เพื่อความปลอดภัย โดยนับจากสายที่มีการไหลของกระแสไฟฟ้า

3.มีจุดยึดที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของตัวราง จะต้องมีการติดตั้งตัวยึดรางในทุกๆ 1.5 เมตร

4.ใช้ให้เหมาะสม ในกรณีที่ต้องการนำรางวายเวย์มาใช้งานในที่กลางแจ้ง ที่อาจจะเสี่ยงกับการโดนฝน ควรจะเลือกใช้รางที่มีคุณสมบัติในการกันฝนด้วย เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากสายไฟโดนน้ำ และในกรณีของการใช้งานในพื้นที่เสี่ยงเช่นกัน ก็ควรเลือกวัสดุของรางที่เหมาะกับหน้างาน

ถึงแม้ว่า รางวายเวย์ จะมีประโยชน์ในการใช้งานเป็นพิเศษ ยังไงในการเลือกก็ต้องเลือกให้เหมาะสมอยู่ดี ดังนั้นในการเลือกชนิดของรางหรือการติดตั้งราง ควรจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้เท่านั้น เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารางได้ถูกติดตั้งอย่างถูกต้อง จะได้ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง

ทำความรู้จักกับหน้าที่สำคัญของช่วงล่างของรถยนต์

บทความนี้ เราจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับหน้าที่สำคัญของช่วงล่างของรถยนต์กัน ว่าช่วงล่างของรถยนต์นั้น มีหน้าที่อะไร และสำคัญฉไนกับรถยนต์หนึ่งคัน พร้อมทั้งทริคสำหรับการสังเกตช่วงล่างของรถยนต์ที่ทางร้าน Jeksuspension มีจำหน่ายนั้นว่าชิ้นไหนดี ชิ้นไหนควรเปลี่ยน และหากเพื่อนๆ ผู้อ่านพร้อมแล้ว เรามาเลื่อนลงไปดูคำตอบเหล่านั้นพร้อมๆ กันเลย

ทำความรู้จักกับหน้าที่สำคัญของช่วงล่างของรถยนต์

  • หน้าที่สำคัญของช่วงล่างของรถยนต์ คือ รองรับน้ำหนักของตัวรถยนต์ ส่วนล่างของรถยนต์เป็นส่วนที่จะสัมผัสกับพื้นถนน ซึ่งรวมไปถึงล้อรถ ทำให้เกิดความสมดุลต่างๆ ในการขับเคลื่อน 
  • หน้าที่สำคัญของช่วงล่างของรถยนต์ คือ รองรับและป้องกันแรงสั่นสะเทือน นอกจากช่วงล่างจะคอยแบกรับน้ำหนักของตัวรถแล้ว ก็ยังช่วยรับแรงกระแทกหรือแรงสั่นสะเทือนเวลาที่รถตกหลุม หรือขับบนพื้นสภาพผิวถนนที่ขรุขระ 
  • หน้าที่สำคัญของช่วงล่างของรถยนต์ คือ รักษาสมดุลของพื้นผิวถนนและตัวรถ เมื่อเวลาที่รถขับเคลื่อนในสภาพถนนที่ขรุขระเป็นหลุม ระบบช่วงล่างจะสามารถปรับระดับของล้อที่สัมผัสกับพื้นผิวถนน ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดความกระทบกระเทือนกับตัวพื้นรถด้านล่าง
  • หน้าที่สำคัญของช่วงล่างของรถยนต์ คือ ทำหน้าที่เป็นตัวชะลอหรือหยุดรถ ระบบช่วงล่างจะมีส่วนของเบรกมือและเบรกเท้า เป็นส่วนสำคัญของการควบคุมการเคลื่อนที่ของรถยนต์ จึงทำให้เบรกหรือชะลอรถได้ดีขึ้น
ทำความรู้จักกับหน้าที่สำคัญของช่วงล่างของรถยนต์

ทริคสำหรับการสังเกตช่วงล่างของรถยนต์ว่าชิ้นไหนดี ชิ้นไหนควรเปลี่ยน

  • ลูกหมาก ถ้าหากชิ้นส่วนเหล่านี้มีปัญหาให้ฟังเสียงดังกุกกักจากใต้ท้องรถ สามารถบอกได้เลยว่าลูกหมากกำลังมีปัญหา
  • โช้คอัพ อาการที่ควรสังเกต คือ เวลารถตกหลุมแล้วรถยวบยาบทำให้เกิดการเบรกบ่อย และจะได้ยินเสียงเอี๊ยดอ๊าดของสปริง
  • ชุดคันส่ง อาการที่ควรสังเกต คือ รู้สึกได้ว่าพวงมาลัยมีอาการสั่น ถ้าบังคับรถจะรู้สึกว่าต้องหมุนพวงมาลัยมากขึ้น และมีเสียงดังมาจากพวงมาลัยเวลาหมุนหรือเลี้ยวรถ

และนี่คือ หน้าที่สำคัญของช่วงล่างของรถยนต์ และทริคสำหรับการสังเกตช่วงล่างของรถยนต์ว่าชิ้นไหนดี ชิ้นไหนควรเปลี่ยนที่เราตนำมาฝากกันในบทความนี้ ทั้งนี้ ทางเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อมูลความรู้เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะ

บอกต่อไอเดียแต่งห้องรับแขก 5 สไตล์ แต่งตามได้เลยทุกบ้าน

เพราะบ้านคือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ดีที่สุด การได้เนรมิตมุมต่าง ๆ ภายในบ้านให้สวยงามและเหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริงจึงกลายเป็นงานอดิเรกของใครหลายคน และสำหรับใครที่หลงใหลการตกแต่งบ้าน ลองมาติดตามไอเดียแต่งห้องรับแขก 5 แบบ 5 สไตล์ เพื่อเป็นไอเดียในการเนรมิตพื้นที่สำคัญนี้ให้คนในครอบครัวได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

1. Minimal Style เรียบง่าย คลาสสิก

เรียกได้ว่าเป็นสไตล์ห้องรับแขกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง เพราะสไตล์มินิมอลแม้จะเน้นความเรียบง่าย แต่กลับมอบความรู้สึกหรูหรา อบอุ่น จนหลายบ้านติดใจเลือกใช้เป็นไอเดียในการตกแต่ง เทคนิคแต่งห้องสไตล์นี้คือเน้นใช้โทนสีเรียบง่าย คลาสสิก เช่น สีขาว สีดำ สีเทา สีน้ำตาล เป็นต้น ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการทาสีผนัง สีวอลเปเปอร์ รวมถึงการเลือกเฟอร์นิเจอร์ก็จะเน้นดีไซน์เรียบ ๆ เช่น โคมไฟสีขาว โต๊ะรับแขกสีดำ แม้กระทั่งสีสายไฟก็ควรจะเป็นโทนสีเรียบง่าย เป็นต้น โดยการแต่งห้องสไตล์นี้เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลในความคลาสสิกและต้องการเนรมิตห้องรับแขกให้ดูสะอาดตา

2. Tropical Style ชิลท่ามกลางธรรมชาติ แม้ในวันอยู่บ้าน

สไตล์การตกแต่งห้องรับแขกที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักธรรมชาติ ไอเดียคือการออกแบบห้องรับแขกให้เหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โดยโทนสีที่เลือกใช้ก็ต้องเน้นโทนสีใกล้เคียงธรรมชาติเป็นหลัก แน่นอนว่าต้องเน้นโทนสีเขียว รวมถึงสีเอิร์ธโทน เช่น สีน้ำตาล สีครีม สีเทา สีฟ้าเข้ม ฯลฯ นอกจากนี้ ยังสนุกกับการเล่นลวดลายของใบไม้บนสิ่งของชิ้นต่าง ๆ ได้อีกด้วย สำหรับใครที่พื้นที่ห้องรับแขกไม่ใหญ่มากก็สามารถแต่งห้องสไตล์นี้ได้เช่นกัน เพียงมีโซฟาสีเขียว โต๊ะรับแขกลายไม้ หมอนอิงลายธรรมชาติ กระถางต้นไม้ เพียงเท่านี้ก็ออกแบบห้องรับแขกในแบบ Tropical Style ได้แล้ว

3. Loft Style เท่ ๆ คูล ๆ ในแบบปูนเปลือย

อีกหนึ่งสไตล์ที่นิยมใช้แต่งห้องนั่งเล่นและห้องรับแขก แม้คาเฟ่เก๋ ๆ คูล ๆ ก็นิยมเลือกใช้สไตล์นี้ในการเนรมิตพื้นที่ให้ดูเก๋แปลกตา โดยการแต่งห้องสไตล์นี้เน้นการเผยผิววัสดุ ให้อารมณ์เท่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น ผนังห้องปูนเปลือย ชั้นวางของที่ทำจากเหล็ก โซฟาสีเทา โต๊ะรับแขกสีน้ำตาลเข้ม เฟอร์นิเจอร์โทนสีเอิร์ธโทนที่เข้ากันได้ดีกับลอฟท์ แม้กระทั่งการเดินสายไฟก็ไม่จำเป็นต้องหาอะไรบังตา แต่ถึงอย่างนั้นต้องดูเรียบร้อยและกลืนกับบรรยากาศห้อง ซึ่งทั้งหมดนี้คือการออกแบบสไตล์ลอฟท์ทั้งสิ้น

4. Modern Style เน้นความเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความทันสมัย

การแต่งห้องรับแขก สไตล์โมเดิร์น คืออีกหนึ่งรูปแบบการตกแต่งห้องที่ครอบครัวสมัยใหม่ให้ความนิยม เพราะนอกจากสวยงามแล้วยังตกแต่งตามได้ง่าย โดยการแต่งห้องสไตล์นี้จะไม่เน้นเรื่องโทนสีเท่าไหร่นัก แต่จะเน้นการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีลวดลายสะดุดตา อย่างลวดลายเรขาคณิต เช่น หมอนอิงที่มีข้อความสวย ๆ กรอบรูปลายตาราง เป็นต้น ด้านโทนสีสามารถเลือกตกแต่งได้ทั้งโทนสีเข้ม โทนสีอ่อน โทนสีอบอุ่น และสีสันจัดจ้าน แต่ถึงอย่างนั้นต้องคงไว้ซึ่งความทันสมัย ดูไม่ย้อนยุคนั่นเอง

5. Sweet Pastel Style ชิล ๆ หวาน ๆ ในวันพักผ่อน

นับเป็นสไตล์ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสาวหวาน เพราะแค่ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่าเป็นการแต่งห้องที่เน้นโทนสีพาสเทลที่หวานจับใจ ดังนั้น การแต่งห้องสไตล์นี้จะเน้นเลือกโทนสีอ่อนและโทนสีพาสเทลเพื่อให้เข้ากัน ยกตัวอย่างผนังห้องที่หากไม่ต้องการทาสีพาสเทลก็อาจเลือกเป็นสีขาว ซึ่งเป็นสีเบสิก และเลือกเฟอร์นิเจอร์โทนสีพาสเทลแทน เช่น โซฟาสีชมพูอ่อน หมอนอิงสีฟ้า โคมไฟสีส้มพาสเทล นอกจากนี้อาจเติมลูกเล่นอื่น ๆ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศพาสเทล เช่น รูปภาพนกฟลามิงโก้ โหลใส่ลูกกวาดหลากสี เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็เนรมิตมุมพักผ่อนแบบหวาน ๆ ได้แล้ว

สำหรับใครที่ยังไม่มีไอเดียแต่งห้องรับแขก อย่าลืมนำไอเดียเหล่านี้ไปเป็นแรงบันดาลใจ เลือกหาสไตล์ที่โดนใจของทั้งตนเองและคนในบ้าน เพื่อเนรมิตพื้นที่บ้านให้กลายเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความสุขของคนในครอบครัวอย่างแท้จริง

กลับมาอีกครั้งกับ Shopee 9.9 Super Shopping Day 2020! เพลิดเพลินไปกับโปรโมชั่นและโค้ดส่วนลดปังที่สุดของปี! ยกขบวนสินค้าแบรนด์ดังไอเท็มฮอตลดราคาถูกที่สุด ช้อปแค่ 0 บาทก็ส่งฟรีทั่วประเทศ เริ่มวันที่ 20 สิงหาคม – 11 กันยายน 2020 นี้!

ห้ามพลาด Flash Sale ไอเท็มขายดีในราคาเพียง 9 บาท! สินค้าแฟชั่น เครื่องสำอางและความงามจากแบรนด์ชั้นนำจัดโปรปังพร้อมให้คุณช้อปกระหน่ำ มาพร้อม Shopee Games ยิ่งเล่นยิ่งคุ้ม แจกรวมกว่า 9 ล้านบาท!

ความแตกต่างของ leased line broadband connection กับ ADSL

รูปแบบของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ใช้กันโดยทั่วไปนั้นมีอยู่ 2 แบบ คือ leased line broadband connection กับแบบ ADSL ซึ่งหลาย ๆ คน ที่ไม่ได้สันทัดในเรื่องเทคโนโลยีเท่าใดนักอาจกำลังสงสัยว่า แล้วทั้ง 2 แบบนี้ มันมีความแตกต่างกันตรงไหนบ้าง ประสิทธิภาพอันไหนที่ดีกว่ากัน แล้วเราเองจะเหมาะกับการเชื่อมต่อแบบไหนกันนะ

ความแตกต่างของ leased line broadband connection กับ ADSL

  1. leased line broadband connection

การเชื่อมต่อในลักษณะนี้จะเป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายส่วนบุคคล หรือของกลุ่มบริษัท องค์กรต่าง ๆ ผ่านทาง Network ซึ่งไม่ใช่การเชื่อมต่อที่เป็นสาธารณะ แต่สามารถใช้ได้เฉพาะผู้ขอใช้บริการรายนั้น ๆ ไปเลย เพื่อการส่งต่อข้อมูลที่รวดเร็วกว่าและความปลอดภัย รัดกุมของข้อมูล เรื่องความลับของธุรกิจต่าง ๆ นั่นเอง

  • ใช้โครงข่ายที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถเชื่อมโยงโครงข่ายทั้งในประเทศและนอกประเทศ ผ่านโครงข่าย ISP ที่มีการครอบคลุมอยูในพื้นที่กว้างขวาง
  • สัญญาณมีความคงที่ สามารถเชื่อมต่อเพื่อใช้งานได้ทุกเวลาที่ต้องการ
  • มีความเป็นส่วนตัว ปลอดภัย
  • มีระบบเครือข่ายสำรองที่คอยซัพพอร์ต ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
  1. ADSL

เป็นการต่อ ADSL Modem ที่ปลายแต่ละด้านของคู่สายโทรศัพท์ จึงทำให้กลายเป็นช่องทางสำหรับสื่อข้อมูลขึ้น โดยมี 3 ช่องคือ ช่องดาวน์สตรีมความเร็วสูง (Downstream) ช่องส่งดูเพล็กซ์ ความเร็วปานกลาง (Duplex) และช่องสำหรับการใช้โทรศัพท์แบบเดิม (POTS) ซึ่งช่องสำหรับการใช้โทรศัพท์จะถูกแยกออกมาด้วยโมเด็มฟิลเตอร์ สัญญาณอินเทอร์เน็ตจึงไม่เกิดการสั่น แกว่ง หรือได้รับผลกระทบขณะที่ใช้งานโทรศัพท์ไปในเวลาเดียวกันความแตกต่างคือ ADSL จะไม่สามารถควบุมความคงที่ของสัญญาณได้เมื่อเทียบกับ leased line broadband connection แต่ก็ยังถือว่าใช้งานได้ดี หากใช้กับการเป็นอินเทอร์เน็ตบ้าน